19/2/61


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ finite verb

Finite and Non-finite verb
คำกริยาในภาษาอังกฤษถ้าแบ่งตามหน้าที่จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ

1. Finite verb (กริยาแท้)
2. Non-finite verb (กริยาไม่แท้)
1. Finite verb (กริยาแท้)คือ กริยาที่ทำหน้าที่แสดงอาการหรือการกระทำของประธานในประโยค ลองนึกภาพดูว่าในประโยคใดประโยคหนึ่งอาจจะมีคำที่มีรูปร่างหน้าตาเป็นคำกริยาปรากฎอยู่มากกว่า 1 คำ แต่จะมีกริยาเพียงตัวเดียวที่เป็นกริยาแท้ในประโยค เป็นกริยาของประธานในประโยค   กริยาที่เป็น finite verb จะสามารถผันรูปได้ตาม subject, Tense, mood และ voice เช่น
ผันตาม Tense
  • am not playing game, but I am doing homework.
    (ผันเป็น verb ที่เติม ing ตาม present continuous tense)
  • They have just finished their work.
    (ผันเป็น verb ช่อง 3ตาม present perfect tense)
ผันตาม subject
  • She goes to work by car every day. (ประธานเอกพจน์)
  • Many people like going abroad.   (ประธานพหูพจน์)
ผันตาม voice
  • Sarah told me her secret.   (active voice)
  • was told about this matter many times. (passive voice)
ผันตาม mood
  • I recommended that he see a doctor. (subjunctive mood)    **ไม่ใช่ he sees
2. Non-finite verb (กริยาไม่แท้) คือ กริยาที่จะไม่ผันตาม tense, subject, mood หรือ voice และจะทำหน้าที่อย่างอื่นในประโยค จะไม่ทำหน้าที่เป็นกริยา   กริยาไม่แท้ในภาษาอังกฤษจะมี 3 ประเภท คือ
2.1 gerund คือ กริยาที่เติม ing (Ving) ทำหน้าที่เป็นคำนามในประโยค  เช่น
  • Smoking isn’t allowed here.
  • I try to avoid meeting him.
2.2  to infinitive คือ กริยารูปธรรมดาที่ตามหลัง to ทำหน้าที่เป็นคำนามในประโยค เช่น
  • The best way to live happily in the society is to be open-minded.
  • To love is to risk.
2.3 participle คือกริยาที่เติม –ed หรือเป็นกริยาช่อง 3   ทำหน้าที่เป็นเหมือนคำคุณศัพท์คือขยายประธานในประโยค เช่น
  • Let a sleeping dog lie.
    อย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยน
    (เป็นสำนวนสุภาษิต หมายถึง อย่าหาเรื่องใส่ตัว )
  • He’s driving a rented car.
    เขากำลังขับรถคันที่เช่ามา
** ในประโยคหนึ่งอาจจะมีกริยาหลายตัว เราจะต้องแยกให้ได้ว่า กริยาใดเป็นกริยาแท้ในประโยคและกริยาใดเป็นกริยาไม่แท้ เพื่อที่เวลาแปลความหมายจะได้ไม่สับสน
  • She wants to know you.
    ในประโยคนี้ กริยาแท้คือ คำว่า wants ซึ่งมีการผันตามประธานที่เป็นเอกพจน์ ส่วน to know เป็นกริยาไม่แท้ ที่เป็น to infinitive
** การรู้จักกริยาแท้และกริยาไม่แท้มีส่วนช่วยในการทำความเข้าใจกับการอ่านเป็นอย่างมาก เพื่อให้ความเข้าใจในเนื้อเรื่องไม่คลาดเคลื่อนค่ะ

13/2/61

International Phonetic Association

The IPA is the major as well as the oldest representative organisation for phoneticians. 

Compressor Head


The first robots (Stickboy, Junior, Fingers and Bones) were built between 2007 and 2012 and their first live performance was held at the 2013 Big Day Out festival in Australia. The band started out playing covers of bands such as MotörheadAC/DCPantera and the Ramones, with videos of the band becoming popular on the internet in 2013.
In early 2013, Barnes recruited John Wright of the Canadian punk bands Nomeansno and The Hanson Brothers as a songwriter and "musical director" for the group. Three songs from this collaboration have so far been released via the band's YouTube page: the original songs "Compressorhead"  and "Speed Walking Lady"  and an instrumental cover of the Hanson Brothers song "My Girlfriend is a Robot".
In November 2015, the team behind the band started a crowdsourcing campaign on the platform Kickstarter to raise 290,000 US dollars to build a robotic "singer".


12/2/61

3D Printer

การพิมพ์ 3 มิติ (อังกฤษ3D Printing) คือ กระบวนการใด ๆ ซึ่งใช้สร้างวัตถุสามมิติ[1] ในการพิมพ์สามมิติ มีการใช้กระบวนการเพิ่มเติม ซึ่งมีการวางชั้นของวัสดุต่อ ๆ กันภายใต้การควบคุมของคอมพิวเตอร์ วัตถุเหล่านี้เป็นได้เกือบทุกรูปทรงหรือเรขาคณิต และผลิตจากแบบจำลอง 3 มิติหรือแหล่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์อื่น เครื่องพิมพ์ 3 มิติเป็นหุ่นยนต์อุตสาหกรรมประเภทหนึ่ง
หลักการทำงาน 3D Printer นั้นจะใช้ในหลักการเดียวกันคือพิมพ์ 2มิติแต่ชั้นในแนวระนาบกับพื้นโลก XY ก่อน ส่วนที่พิมพ์ก็คือภาพตัดขวาง-Cross Section ของวัตถุนั้นๆเอง พอพิมพ์เสร็จในสองมิติแล้วเครื่องจะเลื่อนฐานพิมพ์ไปพิมพ์ชั้นถัดไป พิมพ์ไปเรื่อยๆหลายร้อย หลายพันชั้น จนออกมาเป็นรูปร่าง 3 มิติ การเลื่อนขึ้นหรือลง(เลื่อนในแนวแกน Z)ของฐานพิมพ์ นี่เองทำให้เกิดมิติที่ 3
ประเภทของ 3D Printer มีอยู่ 4 ประเภท ประเภทที่ 1 คือ ระบบฉีดเส้นพลาสติก (FDM หรือ FFF) เป็นเครื่องพิมพ์ 3มิติ ที่นิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน มีหลักการทำงานคือ การหลอมเส้นพลาสติกให้กลายเป็นของเหลวแล้วฉีดออกมาเป็นเส้นผ่านหัวฉีด (Nozzle) หากเปรียบเทียบคงเปรียบเทียบได้กันปืนกาวที่ใช้กันทั่วไป เครื่อง FDM 3D Printer จะวาดเส้นพลาสติกที่ถูกฉีดออกมา เป็นรูปร่างในแนบแกนระนาบ เมื่อเสร็จชั้นหนึ่งๆก็จะพิมพ์ในชั้นต่อๆไป เมื่อครบหลายร้อย หรือ หลายพันเลเยอร์ ก็จะได้ออกมาเป็นวัตถุที่เราสั่งพิมพ์ ประเภทที่ 2 คือ ระบบถาดเรซิ่น (SLA หรือ DLP) เป็นเครื่องระบบนี้จะฉายแสงไปตัวถาดที่ใส่เรซิ่นความไวแสงไว้(Photo Resin/Photopolymer) เมื่อเรซิ่นถูกแสงจะแข็งตัวเฉพาะจุดที่โดนแสง จึงใช้หลักการแข็งตัวของเรซิ่นนี้ในการทำชิ้นงานให้เกิดรูปร่างขึ้นมา เมื่อทำให้เกิดรูปร่างขึ้นในชั้นหนึ่งๆแล้วเครื่องก็จะเริ่มทำให้แข็งเป็นรูปร่างในชั้นต่อๆไป จนเกินเป็นชิ้นงานวัตถุที่จับต้องได้ ประเภทที่ 3 คือ ระบบผงยิปซั่ม+สี Ink Jet (Powder 3D Printer หรือ ColorJet Printing) เป็นระบบใช้ผงยิปซั่ม/ผงพลาสติก เป็นตัวกลางในการขึ้นชิ้นงาน โดยจะพิมพ์สีลงไปเหมือนกัน ต่างกันที่ระบบจะฉีด Blinder หรือ กาว ลงไปด้วยในการผสานผงเข้าด้วยกันเป็นรูปร่าง เมื่อสร้างเสร็จในชั้นหนึ่ง เครื่องจะเกลี่ยผงยิปซั่มมาทับเป็นชั้นบางๆในชั้นต่อไป ประเภทที่ 4 คือ ระบบหลอมผงพลาสติก, ผงโลหะ, เซรามิก (SLS) เป็นระบบที่มีหลักการทำงานคล้ายระบบ SLA ต่างกันตรงที่แทนที่ว่าจะทำให้เรซิ่นแข็งตัวโดยการฉายเลเซอร์ SLS จะยิงเลเซอร์ไปโดยตรงบนผงวัสดุ ความร้อนจากเลเซอร์นั้นเองทำให้ผงวัสดุหลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกัน
















































อ้างอิง:- https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B9%8C_3_%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4